5 สาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึก "เหนื่อย’ ตลอดเวลา
- shinepico
- 4 มิ.ย. 2561
- ยาว 1 นาที

การนอนพักผ่อนน้อยไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้คุณไม่มีพลัง แต่ยังมีอีกหลายสาเหตุที่คุณอาจทำไปโดยไม่รู้ตัวและไม่ทราบว่ามันกำลังทำให้สภาพร่างกายและจิตใจของคุณเหนื่อยล้าอยู่ อย่าง 5 สาเหตุนี้
1. บอกว่าเหนื่อยแล้วไม่ออกกำลังกาย
คนที่หยุดออกกำลังกายเพราะสาเหตุว่าไม่มีแรงหรือเหนื่อยเกินไปจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า การศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย พบว่า ผู้ใหญ่ที่ออกกำลังสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 20 นาทีจะรู้สึกเหนื่อยล้าน้อยกว่าและรู้สึกมีพลังหลังจากออกกำลังกายติดต่อกัน 6 สัปดาห์ นั่นเป็นเพราะการออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความแข็งแกร่ง ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะทำงานเหนื่อยแค่ไหนแต่อย่าใช้เป็นเหตุผลให้หยุดออกกำลังกายเป็นอันขาด
2. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
หากร่างกายมีภาวะขาดน้ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าได้ เนื่องจากเมื่อร่างกายมีน้ำน้อยยังยิ่งทำให้เลือดมีความเข้มข้นและไหลเวียนไม่สะดวกซึ่งทำให้หัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดสูตรคำนวณปริมาณน้ำดื่มที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของแต่ละคน ในแต่ละวันไว้ คือ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หาร 2 คูณ 2.2 คูณ 30 จะได้ปริมาณน้ำหน่วยซีซี ซึ่ง 1,000 ซีซี เท่ากับ 1 ลิตร และ 1 ลิตร เท่ากับน้ำ 5 แก้ว ยกตัวอย่าง น้ำหนักตัว 55 กิโลกรัม 55/2 x 2.2 x 30 เท่ากับ 1,815 ซีซี หรือ 1.8 ลิตร หรือ 9 แก้ว นั่นเอง
3. กินธาตุเหล็กไม่เพียงพอ
ร่างกายที่ขาดธาตุเหล็กจะทำให้รู้สึกไม่สดชื่น ขี้เกียจ และอ่อนแอ เนื่องจากธาตุเหล็กจะช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นถ้าร่างกายขาดจะรู้สึกเหนื่อยง่ายตามไป นอกจากนี้ ธาตุเหล็กยังเป็นธาตุอาหารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องได้จากอาหาร เช่น ไข่แดง ผักคะน้า ตับหมู หอยนางรม งาดำ เป็นต้น
4. นิยมความสมบูรณ์แบบ
ความสมบูรณ์แบบทำให้คุณต้องพยายามเพื่อให้สมบูรณ์ตลอดเวลา ทำให้คุณต้องทำงานหนักขึ้น นานขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจเกินความจำเป็นจนทำให้ตัวเองรู้สึกเหนื่อยล้า นอกจากนี้ คำว่าสมบูรณ์แบบยังเป็นจุดหมายที่ไม่มีจุดจบทำให้คุณไม่พักและไม่เคยพอเสียที สิ่งที่ดีที่สุดจึงน่าจะเป็นการพึงพอใจในความสามารถของตัวเองและพัฒนาทักษะอยู่เสมอแต่ไม่ถึงกับต้องกดดัน
5. เสพติดคาเฟอีน
หนุ่มสาวออฟฟิศบางคนดื่มกาแฟแทนน้ำเปล่าจนไปรบกวนวงจรการนอนหลับในตอนกลางคืน มีการศึกษาชี้ว่า การดื่มกาแฟดำวันละ 3 แก้วเป็นปริมาณที่กำลังพอดี แต่ใช่ว่าร่างกายของทุกคนจะขับคาเฟอีนได้เหมือนกัน ดังนั้นลองสังเกตตัวเองว่ารับสารคาเฟอีนได้มากแค่ไหนโดยที่ยังหลับง่ายและหลับดี
Kommentare